06 กรกฎาคม, 2554

Eternal Sunshine of The Spotless Mind : Are you really fine without me?


ในช่วงเวลาที่เจ็บสุดๆ 
บางครั้งการสั่งหัวใจตัวเองให้หยุดเต้นไปซะเลย
ยังง่ายกว่าลืมใครบางคน


ใน มุมมองของคนมีเหตุผล การกระทำของ Clementine นางเอกในเรื่องนี้นั้นไร้สาระเพราะใครก็รู้ หนังหลายเรื่อง หนังสือหลายเล่มก็บอกอยู่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีที่สุด ความทรงจำทุกอย่างในชีวิตล้วนมีค่า ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงติสแตก อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนใจกับอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายๆ เหมือนเปลี่ยนสีผมอย่าง Clementine คุณค่าของความสัมพันธ์ก็ยังคงเป็นเรื่องสากล ถ้าไม่ถึงที่สุดของที่สุดจริงๆ ไม่ควรมีใครมีสิทธิ์ลบใคร และไม่มีใครเลวร้ายพอจะโดนลบออกจากชีวิตของใคร อีกคน เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้จำไม่ได้ นึกไม่ออก ความเสียใจจะวนกลับมาหาคุณในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่งอยู่ดี... นี่เป็นกฎของคนที่ริจะสร้างความสัมพันธ์ระดับหัวใจ

แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าจะมีคำพร่ำบอกถึงเรื่องนี้มากมายแค่ไหน ถ้ามีเครื่องอะไรสักอย่างที่ลบคนบางคนออกจากความทรงจำได้ หลายคนจะใช้มันโดยไม่ลังเล แม้แต่คนมีเหตุผลมากที่สุดในโลกก็ตาม 

การกระทำของ Joel ตัวเอกฝั่งชายมีเหตุผลให้เข้าใจและเห็นใจไ
ด้มากกว่า 
เมื่อ ‘ไร้ค่า’ ในสายตาคนบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เราแคร์ มันเรื่องใหญ่พอจะทำให้ตัดสินใจว่า ‘เธอลบฉันได้ ฉันก็ลบเธอได้’ แน่ๆ แต่เข้าใจได้และน่าเห็นใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าการกระทำนั้นจะส่งผลดี
ใน ระยะยาว โปสเตอร์เวอร์ชั่นภาพเดี่ยวรูป Jim Carrey ในบท Joel มีประโยคตัวหนังสือคาดตา บอกทุกสิ่งทุกอย่างได้ดีที่สุด ฉันอมยิ้มทุกครั้งที่ได้เห็นรูปนี้ อยากบอก Joel ว่า อย่ามาโกหกซะให้ยาก คนที่พูดว่า ‘I’m fine without you’ น่ะ 100 ทั้ง 100 นอกจากจะไม่ fine แล้วยังอยู่ในระยะปางตายอีกต่างหาก เชื่อขนมกินได้เลย

ในฐานะหนังเรื่องหนึ่ง ... Eternal Sunshine of The Spotless Mind ทำหน้าที่ได้ดีเกินมาตรฐานสื่อบันเทิงเริง
รมย์ ชนิดหนึ่งไปมากโข ด้วยโครงสร้างบทที่แข็งแรง มีลูกเล่น องค์ประกอบที่ไม่บีบคั้น ไม่ดราม่า ที่ทำให้ต่อติดเข้ากับความรักในชีวิตของหลายๆ คนได้ง่าย ฉากเบาๆ ขำๆ ในเรื่องช่วยเพิ่มความปวดใจให้อีกฝั่งของความ เป็นจริงในเรื่องได้เป็นอย่างดี อีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในลิสต์ ‘น่าจดจำ’ คือการแสดงของ Jim Carrey …น่าเสียดาย ที่หลังจากเรื่องนี้มาแล้ว เราแทบไม่ได้เห็นการแสดงแบบ ‘ไม่ล้น’ และ ‘จริง’ จากเขาอีกเลย

ใครที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว แล้วอยู่ในช่วงกำลังเจ็บหัวใจอยากลืมใครสั
กคน ถ้าคุณเสิร์ชคำว่า Eternal Sunshine of the Spotless Mind Music Video ในยูทูป คุณจะเจอมิวสิควีดีโอของหนังเรื่องนี้กับเพล งประกอบ (เพลง Everybody’s got to learn sometime) อยู่ในลิงค์แรก ถ้าอยากลองฆ่าตัวตายแบบละมุนละม่อม แนะนำให้เปิดดูเปิดฟังกลางค่ำคืนตอนนั่งอยู่คนเดียว .... รับรองว่าฟังจบแล้วเจ็บหนักใกล้เคียงเจียนตายมากมายกว่าที่จินตนาการไว้แน่นอน 


Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)
Director: Michel Gondry
Stars: Jim Carrey, Kate Winslet and Tom Wilkinson